fbpx

แชร์ประสบการณ์ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ทำเสร็จ….หน้าเด็กขึ้นในทันที !

สวัสดีค่ะ ในบทความนี้ซังจะมาเล่าประสบการณ์พร้อมรีวิวฉีด ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 2 cc โดยใช้ฟิลเลอร์ Neuramis  ซังเองเป็นคนมีแก้มเยอะ และช่วงก่อนอ้วน พอหลังจากลดความอ้วนแล้ว แก้มก็ลงมานิดหน่อย ทำให้เกิดรอยบริเวณร่องแก้ม 2 ข้าง ทำให้เวลาถ่ายรูปแล่ว หน้าดูแก่ขึ้น

ครั้งนี้ซังได้ไปทำที่ ทมิตา คลินิก สาขาราชพฤกษ์ โดยคุณหมอแนะนำให้ทำข้างละ 1 cc เนื่องจากรอยค่อนข้างเยอะ

และ แนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์ของ Neuramis เป็นของเกาหลี ( ตัวนี้เหมาะกับบริเวณร่องแก้ม ) โดยจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน

ที่นี่มีการแกะกล่องยาให้เห็นกันตอนทำเลย และ ให้แสกนQR code เพื่อเช็คว่าของแท้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นของปลอม 🙂

ก่อนฉีด จะมีการทายาชาก่อน 20-30 นาที

ยาชา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

หลังนั้นก็คุณหมอจะค่อยๆฉีดฟิลเลอร์เข้าไป คือมันจะเจ็บจิ๊ดๆตอนจิ้มแค่นั้น ที่เหลือพอทนได้อยู่

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
หลังฉีดทันที

หลังฉีดจะรู้สึกตึงนิดๆ บริเวณตรงฟิลเลอร์ ซักพักก็จะหายไปเอง

หลังจากทำ 1 วัน ผิวบริเวณที่ฉีดยาชาและฟิลเลอร์จะค่อนข้างแห้ง เป็นคราบๆ

หลังจากฉีด 1 วัน

มาดูก่อนทำและหลังทำ ประมาณ 2 วัน

ก่อนและหลัง filler ร่องแก้ม

จะเห็นว่ารอยตรงร่องแก้มหายไปเลย ดูนูนขึ้น เวลาถ่ายรูปแล้วยิ้มก็จะไม่มีรอยเป็นเส้นๆ

หน้าสดแบบไม่แต่งหน้า

ความรู้สึกหลังทำ รู้สึกมั่นใจมากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องรอยร่องแก้ม หลังทำคือเห็นผลทันที ถือว่าคิดถูกมากๆที่ทำ

เวลายิ้มจะเห็นรอยหน่อยๆ แต่ไม่ชัดมากเป็นธรรมชาติ

หรือเวลาเรายิ้มเบาๆก็จะดูเป็นธรรมชาติ

การดูแลหลังทำฟิลเลอร์

  • หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มให้หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การนวดบริเวณที่ทำ หากมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคัน จะดีขึ้นภายใน 2-3 วัน โดยสามารถทานยาแก้อักเสบหลังทำ เพื่อลดการอักเสบได้
  • ควรอยู่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมต่างๆที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชั่วโมง เช่น การออกกำลังกายหนักๆ ซาวน่า หรือตากแดด
  • งดเลเซอร์ร้อนลงผิวชั้นลึกทุกชนิด เช่น RF (Radio Frequency) Thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
  • ควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ วันละ 1.5-2 ลิตร จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นานขึ้น

สำหรับใครที่สนใจทำ สามารถสอบถามได้ที่ https://www.facebook.com/tamita.clinic/


สำหรับวันนี้ซังต้องขอตัวลาไปก่อน
แล้วพบกันใหม่ บทความหน้าค่ะ <3

♥ BYE BYE ♥
▷ IG : sungsungblog
▷ FACEBOOK : sungsungblog
▷ BLOG : sungsung-blog.com